คู่มือการใช้งาน
2024/06 (v2.2)
กล้องบันทึกภาพติดรถยนต์ DrivePro 550
1. อุปกรณ์ภายในกล่อง
ภายในกล่องกล้องไดรฟ์โปรประกอบด้วย:
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
2. เริ่มต้นเรียนรู้กับกล้องไดรฟ์โปร
2-1 ส่วนประกอบของกล้องไดรฟ์โปร
2-2 การใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD
ใส่การ์ดหน่วยความจำลงในกล้อง ก่อนเริ่มต้นบันทึกภาพ
1. ใส่การ์ดหน่วยความจำลงในช่องที่อยู่ทางด้านขวามือของกล้อง
คำเตือน
- ทำการฟอร์แมตการ์ดด้วยกล้อง ก่อนการเริ่มต้นบันทึกภาพในครั้งแรก โดยกดปุ่ม Settings (ตั้งค่า) ขณะบันทึกภาพ แล้วเลือก Format Card (ฟอร์แมตการ์ด)
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขนาดหน่วยการจัดสรรของการ์ด microSD คือ 32 KB หรือใหญ่กว่า หากไม่เป็นเช่นนั้น กล้องไดรฟ์โปรจะฟอร์แมตการ์ดโดยอัตโนมัติก่อนที่จะบันทึก
- การฟอร์แมตจะลบข้อมูลทั้งหมดในการ์ดหน่วยความจำ
- DrivePro 550 รองรับเฉพาะรูปแบบไฟล์ FAT32 แต่ไม่รองรับ exFAT และ NTFS
2. นำการ์ดหน่วยความจำออกจากกล้องโดยกดการ์ดลงในช่อง แล้วการ์ดจะยื่นออกมา
คำเตือน
ห้ามนำการ์ดหน่วยความจำออกจากเครื่องในขณะเครื่องกำลังปิด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับการ์ด และภาพที่ได้บันทึกไว้
- เราขอแนะนำการ์ด High Endurance microSD ของ Transcend หรือการ์ดหน่วยความจำแบบ MLC เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพการบันทึกที่ดีที่สุด
- สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเวลาในการบันทึกโดยประมาณตามความจุของการ์ด กรุณาไปที่ คำถามที่พบบ่อยบนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเรา
2-3 การติดตั้งกล้องไดรฟ์โปร
-
เสียบขายึดกล้องลงในช่องด้านบนของกล้อง แล้วเลื่อนไปด้านข้างจนได้ยินเสียงล็อค
- ก่อนการติดตั้ง ต้องแน่ใจว่าได้ทำความสะอาดกระจกบังลมหน้ารถบริเวณที่จะติดตั้งกล้องอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด ให้พิจารณาติดตั้งกล้องติดรถยนต์ไว้ตรงกลางกระจกบังลมที่ระดับความสูงประมาณกระจกมองหลัง
-
กดก้านรีดอากาศของขายึดกล้องลงให้แน่นเพื่อติดกล้องไดรฟ์โปร เข้ากับกระจกบังลมหน้ารถ
-
หมุนปุ่มล็อคขายึดกล้องทวนเข็มนาฬิกาเพื่อคลาย แล้วปรับตำแหน่งของกล้อง
-
เมื่อได้ตำแหน่งของกล้องที่ต้องการแล้ว หมุนปุ่มล็อคตามเข็มนาฬิกาเพื่อยึดกล้องให้แน่น
2-4 การต่อสายไฟ
- เชื่อมต่อสาย micro USB จากหัวชาร์จในรถเข้ากับกล้องไดรฟ์โปร
- เสียบหัวเสียบอีกด้านของสายไฟเข้าช่องเสียบที่จุดบุหรี่
- หลังจากติดเครื่องยนต์ กล้องไดรฟ์โปรจะทำงานและเริ่มต้นบันทึกภาพโดยอัตโนมัติ
- หลังจากดับเครื่องยนต์ กล้องไดรฟ์โปรจะจัดเก็บภาพที่ทำการบันทึกอยู่ และปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ
หมายเหตุ
- ใส่การ์ดหน่วยความจำ microSD ลงในกล้องไดรฟ์โปร ก่อนเสียบไฟเข้ากับรถยนต์ของคุณ
- ในรถบางคัน หลังจากดับเครื่องยนต์แล้ว ช่องเสียบที่จุดบุหรี่ยังคงจ่ายไฟ กรณีเช่นนี้ ให้ดึงหัวชาร์จไฟของกล้องไดรฟ์โปรออกเมื่อดับเครื่อง เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น และป้องกันปัญหาที่อาจคาดไม่ถึง
2-5 ปุ่มควบคุมการทำงาน
จอบันทีกภาพ | |
1. สถานะการบันทึกภาพ 2. ความยาวของวิดีโอ 3. ความละเอียดของภาพวิดีโอ / เฟรมเรท 4. การเชื่อมต่อ WiFi 5. การเชื่อมต่อ GPS 6. สถานะการบันทึกเสียง 7. สถานะแบตเตอรี่ 8. วัน / เวลา |
- กดปุ่ม Power ค้างไว้ 3 วินาทีเพื่อเปิด/ปิด กล้องไดรฟ์โปร ทำได้ในทุกโหมด
- กดปุ่ม Snapshot ค้างไว้ เพื่อเปิด/ปิด ไมโครโฟน
- กดปุ่ม Settings ค้างไว้ เพื่อเข้าสู่เมนู วิดีโอ Time-Lapse
- การเชื่อมต่อ WiFi จะใช้งานได้เฉพาะ เมื่อกล้องไดรฟ์โปร เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟเท่านั้น
2-6 ไฟแสดงสถานะ LED
สถานะไฟ LED | หมายถึง |
---|---|
สีแดงติดตลอด | พร้อมทำงาน |
สีแดงกระพริบ | กำลังบันทึกภาพ |
สีฟ้ากระพริบ | เปิด WiFi และบันทึกภาพ |
หมายเหตุ
การเชื่อมต่อ WiFi จะใช้งานได้เฉพาะเมื่อกล้องไดรฟ์โปร เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟเท่านั้น
2-7 การตั้งวันที่และเวลา
กรุณาตั้งค่าวันที่ เวลา และเขตเวลา UTC เพื่อให้แน่ใจว่าเวลาในการบันทึกถูกต้อง ก่อนเริ่มต้นบันทึกภาพ
-
กดปุ่ม Settings (ตั้งค่า)
-
ใช้ปุ่ม / เพื่อเลือก Date/Time แล้วกดปุ่ม OK
-
ใช้ปุ่ม / เพื่อปรับค่าต่างๆ แล้วกดปุ่ม OK เพื่อย้ายไปปรับค่าอื่น
-
ทำซ้ำ ขั้นตอนที่ 3 เพื่อตั้ง รูปแบบ วันที่/เวลา และ เขตเวลา แล้วกด OK ทันทีที่ตั้งค่าเสร็จสมบูรณ์
3. การบันทึกภาพวิดีโอ
3-1 การบันทึกภาพปกติ
หลังจากติดเครื่องยนต์ กล้องไดรฟ์โปรจะทำงานและเริ่มต้นบันทึกภาพโดยอัตโนมัติ โดยปกติ ไฟล์วิดีโอจะถูกจัดเก็บทุกๆ 3 นาที หากคุณต้องการปรับความยาวของไฟล์ กรุณาไปที่เมนู Settings (การตั้งค่า)
หลังจากดับเครื่องยนต์ กล้องไดรฟ์โปรจะจัดเก็บภาพที่ทำการบันทึกอยู่และปิดเครื่องโดยอัตโนมัติ
3-2 การบันทึกภาพขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน
30% ของพื้นที่เก็บข้อมูลจะถูกบันทึกไว้สำหรับไฟล์วิดีโอฉุกเฉิน ไฟล์วิดีโอที่บันทึกในโหมดฉุกเฉินจะถูกป้องกันไม่ให้ถูกเขียนทับ
การบันทึกเหตุการณ์ด้วยตนเอง
ระหว่างการบันทึกวิดีโอ ให้กดปุ่มฉุกเฉินที่ด้านล่างของกล้องไดรฟ์โปร เพื่อทำการบันทึกภาพในโหมดฉุกเฉิน
คำเตือนจะปรากฏบนหน้าจอเมื่อเปิดใช้งานการบันทึกในโหมดฉุกเฉิน
การบันทึกเหตุการณ์ด้วย G-Sensor
ขณะทำการบันทึกภาพ กล้องไดรฟ์โปรจะเปิดใช้งานโหมดบันทึกฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ เมื่อตรวจพบการชนหรือการกระแทก
- หาก G-Sensor ถูกตั้งค่าไว้ที่ “High” แม้แต่การกระเทือนเล็กน้อย ก็อาจทำให้โหมดฉุกเฉินทำงานได้
- หาก G-Sensor ถูกตั้งค่าไว้ที่ “Low” การกระเทือนที่มากจริงๆ ถึงจะทำให้โหมดฉุกเฉินทำงาน
ความไวของ G-Senser สามารถปรับตั้งค่าได้ในเมนู Settings (ตั้งค่า)
หมายเหตุ
การบันทึกแบบวนทับถูกเปิดใช้งานตามค่าเริ่มต้น ไฟล์ที่เก็บในโหมดฉุกเฉินแรกสุดจะถูกเขียนทับด้วยไฟล์ล่าสุด
3-3 การบันทึกภาพในโหมดบันทึกภาพขณะจอดรถ
หลังจากดับเครื่องยนต์ กล้องไดรฟ์โปรสามารถเข้าสู่โหมดบันทึกภาพขณะจอดรถโดยอัตโนมัติ และจะเริ่ม บันทึกภาพเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือการชนเกิดขึ้น โหมดบันทึกภาพขณะจอดรถถูกตั้งค่าเริ่มต้นไว้ให้ปิดการใช้งาน และสามารถเลือกเปิดได้ในเมนู Settings (ตั้งค่า)
หมายเหตุ
หลังจากดับเครื่องยนต์ การเปิดโหมดบันทึกภาพขณะจอดรถไว้ จะทําให้แบตเตอรี่ถูกใช้จนหมด
เมื่อเปิดใช้งานโหมดบันทึกภาพขณะจอดรถ ในขณะแสตนด์บายด์จอภาพจะดับ ไฟแสดงการทํางาน สีแดงจะติดค้าง เมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหวหรือมีการชนเกิดขึ้น กล้องไดรฟ์โปรจะบันทึกภาพประมาณ 15 วินาที โดยจอภาพจะติดขึ้นและไฟสีแดงจะกระพริบ หากไม่มีการเคลื่อนไหวหรือการชนเกิดขึ้นในประมาณ 15 วินาที จอภาพจะดับอีกครั้ง กล้องไดรฟ์โปรจะเข้าสู่โหมดบันทึกภาพปกติ เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ (มีกระแสไฟ เข้าสู่กล้อง)
สายไฟสําหรับเสียบช่องเสียบที่จุดุบุหรี่จะไม่จ่ายไฟหลังจากดับเครื่องยนต์ หากต้องการบันทึกภาพ ในโหมดบันทึกภาพขณะจอดรถเป็นเวลานาน กรุณาใช้การต่อไฟจากภายนอกแทน การใช้งานโหมดบันทึก ภาพขณะจอดรถ สามารถเลือกเปิดได้โดยการกดปุ่ม เปิด/ปิด Power ค้างไว้ ในโหมดบันทึกภาพปกติ กดปุ่ม เปิด/ปิด Power ค้างไว้อีกครั้ง เพื่อปิดกล้องไดรฟ์โปร
ระดับไฟแบตเตอรี่ต่ำ
กรุณาชาร์จกล้องไดรฟ์โปรทันทีที่ภาพสัญลักษณ์ Low Battery ปรากฏบนหน้าจอ เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นกับเวลาของเครื่อง และกรุณาหลีกเลี่ยงการใช้แบตเตอรี่ของกล้องเพื่อบันทึกภาพโดยตรง
หมายเหตุ
หากคุณตั้งใจจะใช้แบตเตอรี่ของกล้องในการบันทึก กรุณาตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีไฟเพียงพอ
4. การเล่นวิดีโอและการเรียกดูไฟล์ภาพ
4-1 การเล่นวิดีโอ / การเรียกดูไฟล์ภาพ
-
กดปุ่ม Browse ในขณะบันทึกภาพ
-
ใช้ปุ่ม / เพื่อเลือก Normal, Emergency หรือ Snapshot แล้วกดปุ่ม OK
-
ใช้ปุ่ม / เพื่อเลือกไฟล์วิดีโอที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม OK เพื่อดูตัวอย่าง
-
กดปุ่ม เพื่อกลับไปยังรายชื่อไฟล์วิดีโอ
4-2 การลบไฟล์วิดีโอ/ภาพ
- กดปุ่ม เพือลบไฟล์วิดีโอ/ภาพ
- ข้อความ “Delete?” จะปรากฏขึ้น ใช้ปุ่ม / เพื่อยกเลิกหรือยืนยันการลบไฟล์วิดีโอ/ภาพถ่าย แล้วกด OK
4-3 การป้องกันไฟล์วิดีโอไม่ให้ถูกลบ
-
กดปุ่ม เพื่อป้องกันไฟล์วิดีโอไม่ให้ถูกลบ
-
ข้อความ “Lock?” จะปรากฏขึ้น ใช้ปุ่ม / เพื่อเลือกตัวเลือกที่ต้องการแล้วกด OK
5. การตั้งค่า
ในเมนูการตั้งค่า คุณสามารถปรับ ความละเอียดของภาพวิดีโอ, ความยาวในการบันทึกภาพ และความไวของ G-Sensor และคุณยังสามารถตั้งวันที่, เวลาและเขตแบ่งเวลา, เปลี่ยนภาษา, ฟอร์แมตการ์ดหน่วยความจำ และอัพเกรดเฟิร์มแวร์
-
กดปุ่ม Settings เพื่อปรับค่าต่างๆ ของกล้องไดรฟ์โปร ในขณะบันทึกภาพ
-
ใช้ปุ่ม / เพื่อเลือกหัวข้อที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม OK
-
ใช้ปุ่ม / เพื่อเลือกการตั้งค่าที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม OK
-
กดปุ่ม เพื่อกลับไปยังเมนู Settings
5-1 ตัวเลือกเมนู
กล้องถ่ายวิดีโอ | ||
ตั้งค่าความละเอียดของภาพวิดีโอที่ต้องการบันทึก (เลนส์หน้า + เลนส์หลัง) | ||
1440P30+1080P30 (ค่าเริ่มต้น) / 1080P60+1080P30 / 1080P30+1080P30 / 720P30+720P30 |
||
ปรับขนาดของรูรับแสงเพื่อเพิ่มความสว่างหรือมืดของภาพ | ||
+2.0 / +1.5 / +1.0 / +0.5 / 0.0 (ค่าเริ่มต้น) / -0.5 / -1.0 / -1.5 / -2.0 | ||
เปิด/ปิด ไมโครโฟนในขณะบันทึกภาพวิดีโอ | ||
Disable (ปิด) / Enable (เปิด) (ค่าเริ่มต้น) | ||
ตั้งความยาวของไฟล์วิดีโอที่ต้องการบันทึก | ||
1 นาที / 3 นาที (ค่าเริ่มต้น) / 5 นาที | ||
แสดงเวลาหรือข้อมูล GPS บนวิดีโอที่บันทึกภาพ | ||
Disable (ไม่แสดง) / Enable (แสดง) (ค่าเริ่มต้น) | ||
จะเขียนทับไฟล์วิดีโอที่เก่าที่สุดด้วยไฟล์ใหม่ล่าสุด หากการ์ดหน่วยความจําเต็ม | ||
Disable (ไม่ใช้งาน) / Enable (ไม่ใช้งาน) (ค่าเริ่มต้น) | ||
เลือกความถี่ที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงการเต้นของแสงไฟในภาพ | ||
50 Hz (ค่าเริ่มต้น) / 60 Hz | ||
ตั้งช่วงเวลาที่ต้องการบันทึกภาพแบบวิดีโอ Time-Lapse โหมดวิดีโอ Time-lapse ต้องเปิดใช้งานเองเท่านั้น เมื่อเปิดแล้ว กล้องจะบันทึกในโหมดนี้แทนการบันทึกภาพแบบปกติ
หมายเหตุ: เพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่รถยนต์หมด กล้องไดรฟ์โปรจะปิดเองโดยอัตโนมัติ หลังจากบันทึกภาพในโหมดวิดีโอ Time-Lapse เป็นเวลาติดต่อกันนานกว่า 48 ชั่วโมง |
||
Disable (ไม่ใช้งาน) (ค่าเริ่มต้น) / ถ่าย 1 ภาพทุก 1 วินาที / ถ่าย 1 ภาพทุก 2 วินาที / ถ่าย 1 ภาพทุก 4 วินาที | ||
ระบบเตือนเพื่อความปลอดภัย | ||
เตือนผู้ขับขี่ เมื่อรถเริ่มเคลื่อนตัวออกนอกเลน ฟังก์ชันนี้จะเริ่มทำงานเมื่อความเร็วรถสูงกว่าความเร็วที่ตั้งค่าไว้
หมายเหตุ: คุณสมบัตินี้จะถูกปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อตั้งค่าความละเอียดของกล้องหน้าเป็น 1080P ที่ 60FPS |
||
Disable (ไม่ใช้งาน) (ค่าเริ่มต้น) / >60 กม./ชม. ถึง >150 กม./ชม. | ||
เตือนผู้ขับขี่ เมื่อรถเข้าใกล้รถคันหน้ามากเกินไป ฟังก์ชันนี้จะเริ่มทํางานเมื่อความเร็วรถสูงกว่าความเร็วที่ตั้งค่าไว้
หมายเหตุ: คุณสมบัตินี้จะถูกปิดใช้งานโดยอัตโนมัติเมื่อตั้งค่าความละเอียดของกล้องหน้าเป็น 1080P ที่ 60FPS |
||
Disable (ไม่ใช้งาน) (ค่าเริ่มต้น) / >60 กม./ชม. ถึง >150 กม./ชม. | ||
เตือนผู้ขับขี่ด้วยเสียง เมื่อความเร็วรถสูงกว่าความเร็วที่ตั้งค่าไว้ | ||
Disable (ไม่ใช้งาน) (ค่าเริ่มต้น) / >60 กม./ชม. ถึง >150 กม./ชม. | ||
ตั้งค่าหน่วยวัดความเร็ว | ||
กม./ชม. (ค่าเริ่มต้น) / ไมล์/ชม. | ||
แสดงความเร็วปัจจุบันและเตือนความปลอดภัยบนหน้าจอ | ||
Disable (ไม่ใช้งาน) (ค่าเริ่มต้น) / Enable (ใช้งาน) | ||
เมื่อกล้องไดรฟ์โปร ตรวจพบสภาวะที่มีแสงน้อย สัญญาณเตือนให้เปิดไฟหน้าจะปรากฏขึ้น | ||
Disable (ไม่ใช้งาน) (ค่าเริ่มต้น) / Enable (ใช้งาน) | ||
เตือนให้ผู้ขับขี่ทราบถึงความจำเป็นที่จะต้องจอดพัก หลังจากขับรถมาเป็นระยะเวลาตามที่ผู้ขับขี่กำหนดไว้ | ||
Disable (ไม่ใช้งาน) (ค่าเริ่มต้น) / 1 ชม. / 2 ชม. / 3 ชม. / 4 ชม. | ||
กำหนดว่าการบันทึกภาพอย่างต่อเนื่องจำเป็นหรือไม่ เมื่อกล้องจับการเคลื่อนไหวได้หลังจากที่ดับเครื่องยนต์ (โหมดนี้จะทำให้แบตเตอรี่ของกล้องถูกใช้จนหมด) | ||
Disable (ไม่ใช้งาน) (ค่าเริ่มต้น) / Enable (ใช้งาน) | ||
ระบบ | ||
แสดงทั้งสองเลนส์ หรือ เลนส์หน้า/หลังเท่านั้น | ||
Front (หน้า) / Rear (หลัง) / Both (ทั้งสอง) (ค่าเริ่มต้น) | ||
ตั้งระดับความดังของลำโพง | ||
0~7 (เลือก 0 คือปิดลำโพง) | ||
ปรับค่าความไวของ G-Sensor | ||
Disable (ไม่ใช้งาน) / Low (ค่าเริ่มต้น) / Medium / High | ||
ตั้งค่าให้กล้องไดรฟ์โปร หน่วงเวลาปิดเครื่อง | ||
Disable (ไม่ใช้งาน) / 10 วินาที (ค่าเริ่มต้น) / 30 วินาที | ||
ตั้งเวลาปิดจอภาพอัตโนมัติ หลังจากเริ่มต้นบันทึกภาพ
หมายเหตุ: ฟังก์ชัน Auto Display Off จะไม่ทำงาน เมื่อเปิดใช้งานระบบเตือน Speed Alarm, Forward Collision, Lane Departure, Headlight Reminder, Driver Fatigue Alert หรือ Head-Up Display |
||
Never (ไม่ปิด) (ค่าเริ่มต้น) / หลังจาก 1 นาที / หลังจาก 3 นาที | ||
แสดงจำนวนของดาวเทียม GPS และระดับสัญญาณที่รับได้ | ||
เปิด/ปิด Wi-Fi | ||
Off (ปิด) / On (เปิด) (ค่าเริ่มต้น) | ||
ตั้งวันที่, เวลา, รูปแบบ และเขตเวลา | ||
ตั้งภาษาของเมนูที่แสดงบนหน้าจอ | ||
English / 繁體中文 / 简体中文 / 日本語 / Deutsch / Español / Français / Italiano / Русский / Português / Ελληνικά / Türkçe / 한국어 / ไทย / Polski | ||
ฟอร์แมตการ์ดหน่วยความจำ microSD
คำเตือน: การฟอร์แมตจะลบข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในการ์ด |
||
Cancel (ยกเลิก) (ค่าเริ่มต้น) / Confirm (ยืนยัน) | ||
อัพเดตกล้องไดรฟ์โปร ของคุณด้วยเฟิร์มแวร์เวอร์ชันล่าสุด ดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของ Transcend: https://www.transcend-info.com/Support/service |
||
Cancel (ยกเลิก) (ค่าเริ่มต้น) / Confirm (ยืนยัน) | ||
ตั้งค่าต่างๆ ให้กลับไปเป็นค่าเริ่มต้นจากโรงงาน | ||
Cancel (ยกเลิก) (ค่าเริ่มต้น) / Confirm (ยืนยัน) | ||
ปรับตำแหน่งของหน้าจอที่กำลังบันทึก | ||
แสดงเวอร์ชันเฟิร์มแวร์ของกล้องไดรฟ์โปร, ความจุของการ์ดหน่วยความจำ, ชื่อเครือข่าย Wi-Fi, รหัสผ่าน, ชื่อรุ่นและหมายเลข |
5-2 การอัพเกรดเฟิร์มแวร์
- หลังจากดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์จากเว็บไซต์ของ Transcend มาแล้ว ทำการขยายข้อมูลแล้วนำไปเก็บไว้ในโฟลเดอร์ “SYSTEM” ในการ์ดหน่วยความจำ
- เสียบการ์ดหน่วยความจำ microSD ที่มีเฟิร์มแวร์ล่าสุดลงในกล้อง
- เสียบไฟเพื่อเปิดกล้อง เลือกฟังก์ชัน Upgrade Firmware จากเมนู Settings และกด OK เพื่อเริ่มต้นตรวจหาเฟิร์มแวร์ กล้องไดรฟ์โปรจะหาไฟล์เฟิร์มแวร์ล่าสุดโดยอัตโนมัติ เลือก Confirm เพื่อยืนยันกระบวนการอัพเกรดเฟิร์มแวร์
หมายเหตุ
การอัพเกรดเฟิร์มแวร์จะใช้เวลา 1-2 นาที กรุณาอย่าปิดกล้องไดรฟ์โปรในขณะกำลังอัพเกรด กล้องไดรฟ์โปรจะรีสตาร์ทโดยอัตโนมัติหลังจากการอัพเกรดเสร็จสมบูรณ์
คำเตือน
ห้ามถอดสายไฟหรือการ์ดหน่วยความจำระหว่างอัพเกรดเฟิร์มแวร์
หากกล้องไดรฟ์โปรไม่สามารถเปิดได้เนื่องจากการอัพเกรดเฟิร์มแวร์ผิดพลาด กรุณาติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของทรานส์เซนด์เพื่อความช่วยเหลือทางเทคนิค
6. การใช้แอพ DrivePro
แอพ DrivePro ดาวน์โหลดได้ฟรี บน iOS (iPhone/iPad) และแอนดรอยด์ และทำให้คุณสามารถดูภาพที่กำลังบันทึก, ควบคุมการทำงานของกล้องไดรฟ์โปร และเล่นวิดีโอได้โดยตรงจากสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตผ่าน Wi-Fi
6-1 การดาวน์โหลดและการติดตั้งแอพ
-
หาแอพ “DrivePro” บน App Store หรือ Google Play
-
ดาวน์โหลดและติดตั้ง DrivePro App
ทันทีที่การติดตั้งสมบูรณ์ แอพจะถูกแสดงบนหน้าหลักบนสมาร์ทโฟนของคุณ ก่อนการใช้แอพ กรุณาศึกษาคำแนะนำการใช้ของแอพ DrivePro
6-2 การเชื่อมต่อกับกล้อง DrivePro
1. โปรดเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนของคุณเข้ากับกล้องไดรฟ์โปร โดยใช้วิธีใดวิธีหนึ่งต่อไปนี้:
- Option 1: สแกน QR โค้ดของ WiFi บนกล้องติดรถยนต์
- กดปุ่ม Power บนกล้องไดรฟ์โปร
- สแกน QR โค้ดบนหน้าจอของกล้องด้วยสมาร์ทโฟนของคุณ
- Option 2: เลือกสัญญาณ WiFi
- แตะ Settings > WiFi จากสมาร์ทโฟนของคุณ
- เลือกเครือข่าย WiFi: DP550 (รหัสผ่านคือ 12345678)
2. แตะไอคอนแอพ DrivePro บนสมาร์ทโฟนของคุณและเชื่อมต่อกับกล้อง DrivePro 550
3. รูปภาพด้านบนจะปรากฏขึ้น เมื่อคุณเชื่อมต่อกับกล้องไดรฟ์โปร
หมายเหตุ
หากต้องการเปลี่ยนชื่อเครือข่ายของ Wi-Fi และรหัสผ่านใหม่ ไปที่ Settings ในแอพ DrivePro
4. คลิกลิงก์ด้านล่างเพื่อดูคำแนะนำการใช้งานโดยละเอียด
https://help.transcendcloud.com/DrivePro/index.html?page=connect
7. โปรแกรม DrivePro Toolbox
โปรแกรม DrivePro Toolbox สำหรับ Windows และ macOS มีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ซึ่งทำให้คุณสามารถเลือกเล่นวิดีโอที่บันทึกไว้บนกล้องไดรฟ์โปร และดูเส้นทางการขับขี่ของวิดีโอที่บันทึกไว้บนแผนที่ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม
ระบบที่ต้องการในการเชื่อมต่อกล้องไดรฟ์โปรกับคอมพิวเตอร์:
- คอมพิวเตอร์ที่มีช่อง USB
- Microsoft Windows 10 หรือใหม่กว่า
- macOS 10.12 หรือใหม่กว่า
-
ดาวน์โหลดไฟล์สำหรับติดตั้งโปรแกรมจาก:
https://www.transcend-info.com/support/software/drivepro-toolbox -
ติดตั้งโปรแกรม DrivePro Toolbox บนคอมพิวเตอร์ของคุณ
คุณสมบัติหลัก | |
Video Sorting |
จัดเรียงวิดีโอตามชื่อไฟล์ วันที่บันทึก หรือกลุ่ม ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาวิดีโอที่บันทึกไว้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อเล่นได้ |
Smooth Video Playback |
เชื่อมต่อ DrivePro หรือใช้ตัวอ่านการ์ด microSD หรืออะแดปเตอร์เพื่อเล่นเหตุการณ์วิดีโอที่บันทึกไว้ในคอมพิวเตอร์ของคุณ |
Edit and Trim Videos |
เลือกวิดีโอ ตัดต่อและบันทึกเป็นคลิปใหม่ได้ทันที คุณยังสามารถถ่ายภาพหน้าจอจากวิดีโอของคุณระหว่างการเล่น |
Map View |
ดูเส้นทางการขับขี่ของคุณที่แสดงบนแผนที่พร้อมกับวิดีโอที่บันทึกไว้
หมายเหตุ: คุณสมบัตินี้ใช้งานได้กับ DrivePro รุ่นที่มีตัวรับสัญญาณ GPS (DrivePro 550, DrivePro 520, DrivePro 250, DrivePro 230, และ DrivePro 220) |
License Plate Recognition |
ระบุป้ายทะเบียนในวิดีโอโดยอัตโนมัติและแยกฟุตเทจเพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาได้อย่างรวดเร็ว
หมายเหตุ: มีเฉพาะใน Windows รุ่น 64 บิต |
Export Merged Videos |
เล่นวิดีโอที่บันทึกโดยเลนส์หน้าและหลังพร้อมกัน ส่งออกและเล่นวิดีโอที่รวมเข้าด้วยกัน
หมายเหตุ: มีเฉพาะรุ่นกล้องเลนส์คู่: DP550/DP520 |
8. การย้ายไฟล์ไปยังคอมพิวเตอร์
นำการ์ดหน่วยความจำ microSD ออกจากกล้องไดรฟ์โปร และเสียบเข้าไปในตัวอ่านการ์ดหน่วยจำเพื่อโอนย้ายไฟล์ไปยังคอมพิวเตอร์
9. การแก้ไขข้อขัดข้อง
หากกล้องไดรฟ์โปรมีปัญหา กรุณาตรวจสอบคำแนะนำตามรายการที่อยู่ด้านล่าง ก่อนส่งกล้องไดรฟ์โปรไปซ่อม หากคุณไม่พบวิธีแก้ปัญหา กรุณาติดต่อร้านค้าที่ซื้อกล้องมา ศูนย์บริการ หรือตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Transcend เพื่อขอความช่วยเหลือ คุณยังสามารถเข้าเว็บไซต์ของทรานส์เซนด์ เพื่อดูคำถามที่พบบ่อยและบริการช่วยเหลือทางเทคนิค ในกรณีมีปัญหาที่ตัวเครื่อง กรุณาศึกษาข้อมูลจากคู่มือการใช้งานกล้องไดร์ฟโปร
- ปุ่มต่างๆ ของกล้องไดรฟ์โปรไม่ทำงาน (กล้องขัดข้องหรือทำงานช้า)
- ลองถอดสายไฟออกจากกล้องไดรฟ์โปร แล้วเสียบกลับเข้าไปใหม่อีกครั้ง
- กล้องไดรฟ์โปรไม่สามารถเล่นไฟล์วิดีโอที่เก็บไว้ในการ์ดหน่วยความจำได้
- ไฟล์วิดีโอที่ถูกแก้ไขอาจไม่สามารถเล่นได้บนกล้องไดรฟ์โปร
- ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อกดปุ่ม “บันทึกภาพในโหมดฉุกเฉิน”
- ปุ่ม “บันทึกภาพในโหมดฉุกเฉิน” ทำงานได้เฉพาะในขณะที่กล้องกำลังบันทึกภาพเท่านั้น
10. ข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัย
คำแนะนำเรื่องความปลอดภัยและการใช้งานเหล่านี้ สำคัญมาก กรุณาปฏิบัติตามอย่างระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง และเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับกล้องไดรฟ์โปร
- วิธีการใช้ทั่วไป
- สำหรับใช้ภายในรถเท่านั้น
- เพื่อความปลอดภัย อย่าปรับกล้องหรือใช้แอพ DrivePro ขณะขับรถ
- หลีกเลี่ยงการวางกล้องไว้ในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง
- หลีกเลี่ยงไม่ให้น้ำ หรือของเหลวอื่นๆ โดนกล้องและอุปกรณ์ต่างๆ ของกล้อง
- ห้ามใช้กล้องในบริเวณที่มีสนามแม่เหล็กรุนแรงหรือที่มีการสั่นสะเทือนมาก
- ใช้เฉพาะสายไฟสำหรับต่อช่องเสียบที่จุดบุหรี่ ที่เป็นของ Transcend เท่านั้น สายไฟอื่นอาจไม่สามารถทำงานกับกล้องไดรฟ์โปรได้
- ในรถบางคัน หลังจากดับเครื่องยนต์แล้ว ช่องเสียบที่จุดบุหรี่ยังคงจ่ายไฟ กรณีเช่นนี้ให้ดึงปลั๊กของตัวกล้องไดรฟ์โปรออกเมื่อดับเครื่อง เพื่อลดการใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นและป้องกันปัญหาที่อาจคาดไม่ถึง
- ระบบ GPS อาจเกิดการคลาดเคลื่อนได้ ซึ่งอาจมีผลกับความถูกต้องและประสิทธิภาพการทำงาน Transcend ไม่รับประกันความถูกต้องของข้อมูล GPS ซึ่งไม่ควรมีผลต่อการตัดสินใจของคุณในขณะขับขี่
- สัญญาณ GPS ไม่สามารถทะลุผ่านอาคาร และฟิล์มกรองแสงที่มีโลหะเคลือบอยู่ ความถูกต้องของสัญญาณ GPS ขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อม รวมถึงสภาพอากาศและตำแหน่งที่ถูกใช้งาน เช่น บริเวณที่มีอาคารสูง อุโมงค์ ใต้ดิน และป่า
- ฟังก์ชัน WiFi ใช้งานได้เฉพาะเมื่อกล้องไดรฟ์โปร เชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟเท่านั้น
- ตำแหน่งสำหรับติดตั้งกล้อง
- อย่าติดตั้งกล้องไดรฟ์โปร บดบังทัศนวิสัยในการขับรถ หรือขัดขวางตำแหน่งการทำงานของถุงลมนิรภัย
- ติดตั้งกล้องไดรฟ์โปร ในตำแหน่งที่ที่ปัดน้ำฝนทำงานถึง เพื่อความชัดเจนของภาพขณะฝนตก
- คำเตือน: ถอดกล้องไดรฟ์โปรจากบริเวณที่ติดตั้งอย่างระมัดระวัง หากติดตั้งลงบนฟิล์มกรองแสง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับฟิล์ม
- การสำรองข้อมูล
- ทรานส์เซนด์ไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายของข้อมูลในระหว่างการทำงาน เราขอแนะนำให้คุณทำการสำรองข้อมูลจากการ์ดหน่วยความจำของคุณไปยังคอมพิวเตอร์หรือที่เก็บข้อมูลอื่นบ่อยๆ
11. รายละเอียดของกล้อง
DrivePro 550 (รุ่นที่ผลิตก่อน พฤศจิกายน 2566) |
DrivePro 550 (รุ่นที่ผลิตหลัง พฤศจิกายน 2566) |
|||
---|---|---|---|---|
ขนาด | 95.6 มม.(ยาว) ×65 มม.(กว้าง)×40.5 มม.(สูง) | |||
น้ำหนัก | 107 กรัม | |||
อินเตอร์เฟซเชื่อมต่อ | USB 2.0 | |||
ความจุ | การ์ด microSD ขนาด 64 GB (ให้มาด้วย) |
|||
WiFi | 802.11n | |||
จอภาพ | จอภาพสี LCD ขนาด 2.4 นิ้ว | |||
เลนส์ | หน้า: F/2.2, 150° (แนวทแยง) หลัง: F/2.0, 130° (แนวทแยง) |
หน้า: F/2.0, 140° (แนวทแยง) หลัง: F/2.0, 140° (แนวทแยง) |
||
รูปแบบวิดีโอ | H.264 (MP4: สูงสุด 1920×1080P 60FPS) |
H.264 (MP4: สูงสุด 2560×1440P 30FPS) |
||
ความละเอียดของภาพ/ เฟรมเรท (สูงสุด) |
หน้า: 1920×1080P (60FPS) หลัง: 1920×1080P (30FPS) |
หน้า: 2560×1440P (30FPS) หลัง: 1920×1080P (30FPS) |
||
อุณหภูมิที่ทำงานได้ | -20°C ถึง 60°C | |||
แหล่งจ่ายไฟ (ในรถยนต์) |
กระแสไฟเข้า: DC 12 V to 24 V กระแสไฟออก: DC 5 V 2 A |
|||
ระบบดาวเทียมนำทาง | GPS / GLONASS | |||
รับรองโดย | CE / FCC / BSMI / NCC / MIC / KC / EAC / RCM |
CE / UKCA / FCC / BSMI / NCC / MIC / KC / EAC / RCM |
||
การรับประกัน | 2 ปี | |||
การ์ดหน่วยความจำ ที่รองรับ | ตรวจสอบข้อมูลรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ | |||
|
นอกเหนือจากการ์ด microSD ที่ให้มาด้วย เราขอแนะนำการ์ด High Endurance microSD ของ Transcend หรือการ์ดหน่วยความจำแบบ MLC เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพการบันทึกที่ดีที่สุด |
12. แถลงการณ์การปฏิบัติตามสหภาพยุโรป EU Compliance Statement
Transcend Information Inc. ขอประกาศในที่นี้ว่าผลิตภัณฑ์ของ Transcend ทั้งหมดที่มีเครื่องหมาย CE ซึ่งรวมฟังก์ชันการทำงานของอุปกรณ์วิทยุนั้นเป็นไปตาม คำสั่ง 2014/53/EU
ข้อความฉบับเต็มของประกาศความสอดคล้องของสหภาพยุโรปอยู่ที่:
https://www.transcend-info.com/eu_compliance
Dashcam / Body Camera series | ||
Frequency: 2400 MHz to 2483.5 MHz |
Maximum transmit power: < 100 mW |
13. การนำกลับมาใช้อีกและการปกป้องสิ่งแวดล้อม
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรีไซเคิลผลิตภัณฑ์ (WEEE) และการกำจัดแบตเตอรี่ โปรดดูที่ลิงค์ต่อไปนี้:
https://www.transcend-info.com/about/green
14. คำแถลงการณ์ของคณะกรรมการสื่อสารแห่งสหพันธรัฐ Federal Communications Commission (FCC) Statement
This device complies with Part 15 FCC Rules. Operation is subject to the following two conditions: (1) This device may not cause harmful interference. (2) This device must accept any interference received including interference that may cause undesired operation.
This Equipment has been tested and found to comply with the limits for a Class B digital device, pursuant to Part 15 of the FCC rules. These limits are designed to provide reasonable protection against harmful interference in a residential installation. This equipment generates, uses and can radiate radio frequency energy and, if not installed and used in accordance with the instructions, may cause harmful interference to radio communications. However, there is no guarantee that interference will not occur in a particular installation. If this equipment does cause harmful interference to radio or television reception, which can be determined by turning the equipment off and on, the user is encouraged to try to correct the interference by one or more of the following measures:
- Reorient or relocate the receiving antenna.
- Increase the separation between the equipment and receiver.
- Connect the equipment into an outlet on a circuit different from that to which the receiver is connected.
- Consult the dealer or an experienced radio/TV technician for help.
RF Exposure Information (SAR)
This equipment complies with the FCC portable RF exposure limit set forth for an uncontrolled environment. The exposure standard for wireless devices employing a unit of measurement is known as the Specific Absorption Rate, or SAR. The SAR limit set by the FCC is 1.6W/kg.
This equipment could be installed and operated with minimum distance 0cm between the radiator & your body.
-
Any changes or modifications not expressly approved by the party responsible for compliance could void the authority to operate equipment.
-
This device and its antenna must not be co-located or operating in conjunction with any other antenna or transmitter.
Transcend Information Inc (USA)
1645 North Brian Street, Orange, CA 92867, U.S.A
TEL: +1-714-921-2000
15. การรับประกัน
โปรดดูระยะเวลาการรับประกันของผลิตภัณฑ์นี้บนบรรจุภัณฑ์ สำหรับรายละเอียดของข้อกำหนดและเงื่อนไขการรับประกันและระยะเวลาการรับประกัน โปรดดูที่ลิงค์ด้านล่าง:
https://www.transcend-info.com/warranty
16. การเปิดเผยใบอนุญาตแก่สาธารณะทั่วไป GNU General Public License (GPL) Disclosure
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้สิทธิ์แบบโอเพ่นซอร์ส กรุณาดูที่ลิงก์ด้านล่าง:
https://www.transcend-info.com/Legal/?no=10
17. ข้อตกลงให้อนุญาตสำหรับผู้ใช้ End-User License Agreement (EULA)
สำหรับรายละเอียดของข้อกำหนดสิทธิ์การใช้งานซอฟต์แวร์ กรุณาดูที่ลิงค์ต่อไปนี้:
https://www.transcend-info.com/legal/gpl-disclosure-eula